แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - pwt

หน้า: [1]
1
วันที่ 9 ก.พ.2565 นี้ XV ผมจะมีอายุ 6 ปี แต่เพิ่งวิ่งไปแค่ 5,9000 โล ไม่เคยลุยน้ำท่วม ใช้งานในเมืองตามปกติ วิ่งวันละประมาณ 30-40 โล แต่ไม่ทุกวัน ปัญหาแรกที่เจอคือแอร์ไม่เย็น ปรากฎว่า คอล์ยเย็นรั่ว ตอนนี้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ปัญหาตอนนี้คือ เมื่อใช้ความเร็วประมาณ 80 กม./ช.ม.ขี้นไป จะได้ยินเสียงหอนชัดเจน เข้าใจว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนลูกเปืนล้อแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าต้องเปลี่ยนทั้งหมดกี่ล้อ ก็แปลกใจว่ารถแรลลี่โลก ทำไมชิ้นส่วนมันเสียง่ายอยากนี้ Subaru ต้องปรับปรุงคุณภาพครับก่อนที่หลายๆคนจะเปลี่ยนใจไปใช้ยี่ห้ออื่นกันหมด ขอบคุณครับ

2
ปกตินะครับสำหรับกระทู้แรก
รถจะวอร์มเครื่องจากอุณหภูมิน้ำประมาณ 37°c หลังจากจอดทิ้งไว้ทั้งคืน จนได้อุณหภูมิประมาณ 48-49°c ไฟสีฟ้าซึ่งหมายถึงเครืองเย็นก็จะดับ รอบเครื่องก็จะตกลงมาเหลือประมาณไม่เกิน 800 - 900 รอบ สมัยที่รถยังใช้คาร์บูเรเตอร์อยู่จะเรียกว่าโช็คไฟฟ้า ทั้งหมดนี้จะใช้เวลาวอร์มเครื่องไม่เกิน 2-3 นาที ถ้าใครเข้าเกียร์ D ตั้งแต่ไฟสีฟ้ายังไม่ดับ ก็จะรู้สึกว่ารถเครื่องแรงกว่าปกติ หรือต้องออกแรงเหยียบเบรคมากกว่าปกติ ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ผมได้มาจาก app ใน Android ที่ชื่อ MiniOBD II และ Active OBD for Subaru เพราะ XV ของผมเป็นรุ่นแรกๆที่จอ MFD ยังไม่โชว์ข้อมูลเกี่ยวกับความร้อน(น่าจะรุ่นเดียวกันกับจขกท) ก็เลยต้องหา Gadget มาเพิ่มเติมครับ
เพิ่มเติม ตอนที่เครื่องร้อน app Active OBD จะโชว์ว่าอุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 96-97°c ส่วนอุณหภูมิน้ำมันเครื่องก็พอกันครับ

3
ผมอยู่ตจว.ที่มีศุนย์ Subaru แค่ศูนย์เดียว ต่อรองอะไรมากไม่ค่อยได้
ตอนแรกก็ไม่ค่อยไว้ใจทางศูนย์ซักเท่าไหร่ในเรื่องของแถม
แต่ผมให้ระบุในสัญญาซื้อขายว่าของแถมจะได้ไม่เกินเดือนไหน
ตอนนี้ของแถมได้มาบางส่วนแล้วหลังจากออกรถเมื่อ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา
ยังขาดแต่ไฟเบรคดวงที่ 4 และคิ้วกันสาด
สำหรับผมแล้ว ของแถมที่ยังขาดอยู่ ผมรอได้ แลกกับการได้ขับเจ้า XV
เพราะรถขับดีจริงๆ แต่ถ้าคิดว่าของแถมนั้นสำคัญ ก็รอก่อนเถอะครับ
เพราะหลังจากจ่ายเงินดาวน์แล้ว ก็คงต้องร้องแต่เพลง"รอ"อย่างเดียว

ตอนนี้เข้าศูนย์เช็ค 1,000 กิโลแล้ว เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง ทุกอย่างฟรีครับ

4
สายตามรูปนี้น่าจะผลิตมารองรับน้ำมันE20-E85. ครับ **เฉพาะสายนะครับระบบอื่นไม่เกี่ยวครับ**
ขอบคุณครับ

ไม่ทราบมีท่านใดจะเสริมไหมครับ

5
ตามหัวข้อข้างบนเลยครับ

6
ผมขออนุญาตแนะนำนะครับ
สำหรับท่านที่สนใจจะไปลองรถ

ยังไงลองคุยกับเซลขอไปลองในทางโค้งดู
ไม่ต้องเข้าแรงแบบเเรลลี่นะ เอาธรรมดาๆ ทั่วไปนี่แหละ
หากแรกๆกลัวให้ดึงแพดเดิ้ลชิฟท์ลดลงมาหนึ่งเกียร์ก่อน แล้วกดอัดโค้งเข้าไป
ก้อพอจะรู้เเล้วว่ามันเกาะขนาดไหน

แล้วลองวิ่งนิ่งๆความเร็วสัก 100 - 120
แล้วกดอัดคันเร่ง แบบกดทันทีนะครับ ให้รอบแตะถึงเรดไลน์ครับ
ฟังเสียงเครื่องด้วยนะครับตอนนี้ ว่ามีความรู้สึกอย่างไรกับมัน

จากนั้นวิ่งเพลินๆ แล้วเบรคให้หยุดครับ
เอาแบบให้เหมือนว่ารถข้างหน้าเขาเบรคหัวทิ่มกันหมดเเล้ว
ตอนนี้เราจะเบรคอย่างไรไม่ให้ชนคันข้างหน้า

แล้วลองไปทำกับ รถค่ายอื่นที่ดูไว้ ครับ ว่าผลต่างกันเป็นอย่างไร
อัตราเร่ง ความนิ่ง เบรค ความมั่นใจในการขับขี่ ครับ:กิกิ:

ณ.เวลานี้ เพื่อนๆที่ตอบในกระทู้นี้คงได้รถที่ถูกใจกันไปหมดแล้ว
ผมเป็นน้องใหม่ของชุมชน Subaru XV เพิ่งถอยรุ่น Sport มาเมื่อวันที่ 9 ก.พ.นี้เอง
หลังจากที่ใช้รถยี่ห้ออื่นๆมาเป็นเวลาประมาณ 40 ปี(สอบใบขับขี่ได้ตอนอายุ 18)
อยากจะบอกว่า ข้อความที่ผมอ้างถึงข้างต้น ทำให้ XV ไม่เหมือนรถยี่ห้ออื่นๆเลยนะ
ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่อง Boxer ช่วงล่างที่ผมคาดว่าน่าจะ "นุ่มแต่หนึบ" และเบรคที่ไว้ใจได้
(เสียงเครื่องชอบตั้งแต่ตอน test drive ขับเข้าโค้งหักศอกขึ้นเขาแถวแหลมสิงห์ จ.ภูเก็ตโดยใช้เกียร์ในโหมด Manual)
โดยสรุป XV เป็นรถที่ผมชอบ"เกือบทุกอย่าง" ยกเว้นอย่างเดียวคือไฟหน้า
เพราะ XV เป็นรถที่สูงกว่ารถเก๋งซีดาน ไฟต่ำควรจะกระจายและสว่างกว่านี้ เพื่อให้ XV แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ยามคำ่คืนหรือตามถนนในต่างจังหวัดที่ไม่มีไฟส่องสว่างริมถนน ซึ่งผมคงจะต้องจัดการกับปัญหานี้ภายในเร็ววันนี้ละครับ  :กิกิ:

หน้า: [1]