1
โต๊ะกาแฟ สนทนาทั่วไป / 5 นิสัย น่ารัก เข้ากับเพื่อนใหม่ได้ฉลุย
« เมื่อ: March 05, 2019, 11:39:40 »
เวลาที่เพื่อนๆ เข้า โรงเรียน เข้ากลุ่ม เข้าชมรมใหม่ ก็ต้องเจอเพื่อนใหม่ มากหน้าหลายตา จะบอกให้ว่าพวกเพื่อนๆเหล่านี้แหละ จะเป็นกลุ่มเพื่อนที่ น่ารัก ของเราในอนาคต ที่สดใสต่อไป ^^ แต่หลายคนคงยังอายและไม่กล้าที่จะเริ่มทักทาย พูดคุย หรือ ทำตัวแบบไหนดี? ให้เข้ากับเพื่อนๆกลุ่มใหม่ได้ วันนี้ teen.mthai ก็มี?10นิสัย น่ารัก เข้ากับเพื่อนใหม่ได้ฉลุย มาบอกกันค่า
(1) ยิ้ม
ตื่นขึ้นมา… ให้ส่องกระจก ยิ้มให้ตัวเอง ก่อนคนอื่นจะยิ้มให้เรา หรือไม่ ควรฝึกยิ้มน้อย ๆ ให้ตัวเองทุกครั้งที่ส่องกระจก เพราะยิ้มเป็นคุณสมบัติแรกของคน น่ารัก
เวลาพบใคร… ให้สบตา ยิ้มหน่อย และควรเป็น “ยิ้มที่ไม่หวังยิ้มตอบแทน” เพราะวันนี้…อาจจะเป็นวันที่ไม่ค่อยดีสำหรับคนอื่น (bad day) ก็ได้ เช่น คนที่เรายิ้มให้อาจจะไม่ถูกหวย ปวดหัว หรือมีอาการวัยทองแฝงเร้นอยู่ภายใน ฯลฯ
ถ้าเขินที่จะยิ้ม… ให้ “แย้ม” หรือยิ้มนิด ๆ แทน
(2) ทักทาย
อาจารย์ ท่านแนะนำ ให้หัดกล่าว ‘hello (ฮัลโหล)’ หรือ ‘hi (ฮาย)’ เวลาทักท่านไม่ให้ “ทักแต่ปาก” ทว่า… ให้โบกไม้โบกมือ หรือพนักหน้าไปด้วย เพื่อแสดงความหนักแน่น
คนไทยหรือคนเอเชียมีวัฒนธรรมที่ต่างจากฝรั่ง ไม่กล่าวฮัลโหลก็ไม่เป็นไร ขอให้ทักทายอะไรคนอื่นก่อนสักอย่าง ไหว้ก็ได้ ฮัลโหลก็ดี (ตามสมควร)
(3) ถามคนอื่นว่า “(เขาหรือเธอ) ทำอะไรอยู่เหรอ”
การถามแบบนี้ไม่ได้มุ่งหวังคำตอบ เพียงแต่ถามเพื่อทักทาย คล้าย ๆ กับที่คนไทยและชาวพม่าชอบถามว่า “สบายดีไหม” หรือคนจีนชอบถามว่า “กินข้าวแล้วยัง”
การยิ้มให้และไม่พูดอะไรเลยอาจ ทำให้อีกฝ่าย หนึ่งอึดอัดได้… การพูดแบบนี้เรียกว่า “การพูดละลายน้ำแข็ง (Break the ice. = การพูดเพื่อเปิดตัว รู้จักกัน ทักทายกัน หรือทำลายกำแพงของความเงียบและความไม่รู้จักกัน)
(4) เป็นนักฟังที่ดี
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะร้ายหรือดีเพียงไร คน น่ารัก มักจะตั้งใจรับฟัง… ถ้าไม่อยากรับฟังนานเกินก็อาจ “ขอตัว” เช่น กล่าวว่า ขอตัวไปซื้อกับข้าว ฯลฯ
คน น่ารัก ส่วนใหญ่จะไม่พูดเรื่องที่ตัวเองสนใจมาก ทว่า… จะรับฟัง หรือเชิญอีกฝ่ายให้พูดเรื่องที่ (อีกฝ่าย) สนใจ และไม่ “ขัดคอ” ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ
(5) สุภาพอ่อนน้อม
อาจารย์ท่านแนะนำให้พูดคำต่อไป นี้บ่อย ๆ ได้แก่ ‘please = ได้โปรด กรุณา’ , ‘thank you = ขอบคุณ ขอบใจ’ , ‘You are welcome. = ยินดีต้อนรับ’ , ‘sir = ท่าน (ผู้ชาย)’ , ‘madam’ หรือ ‘ma’am = แมม / ท่าน (ผู้หญิง)’ , ‘Excuse me = ขอโทษ (เช่น เวลาขอทางเดิน ฯลฯ)’ , ‘sorry = เสียใจ (ใช้แทนคำขอโทษได้)’
คน น่ารัก มักจะมีลักษณะสำคัญได้แก่ ‘Be patient, observant and considerate’ ได้แก่ “อดทน ช่างสังเกต (ความรู้สึกของคนอื่น ไม่เฉยเมยต่อความรู้สึกของคนรอบข้าง) และมีน้ำใจ”
(1) ยิ้ม
ตื่นขึ้นมา… ให้ส่องกระจก ยิ้มให้ตัวเอง ก่อนคนอื่นจะยิ้มให้เรา หรือไม่ ควรฝึกยิ้มน้อย ๆ ให้ตัวเองทุกครั้งที่ส่องกระจก เพราะยิ้มเป็นคุณสมบัติแรกของคน น่ารัก
เวลาพบใคร… ให้สบตา ยิ้มหน่อย และควรเป็น “ยิ้มที่ไม่หวังยิ้มตอบแทน” เพราะวันนี้…อาจจะเป็นวันที่ไม่ค่อยดีสำหรับคนอื่น (bad day) ก็ได้ เช่น คนที่เรายิ้มให้อาจจะไม่ถูกหวย ปวดหัว หรือมีอาการวัยทองแฝงเร้นอยู่ภายใน ฯลฯ
ถ้าเขินที่จะยิ้ม… ให้ “แย้ม” หรือยิ้มนิด ๆ แทน
(2) ทักทาย
อาจารย์ ท่านแนะนำ ให้หัดกล่าว ‘hello (ฮัลโหล)’ หรือ ‘hi (ฮาย)’ เวลาทักท่านไม่ให้ “ทักแต่ปาก” ทว่า… ให้โบกไม้โบกมือ หรือพนักหน้าไปด้วย เพื่อแสดงความหนักแน่น
คนไทยหรือคนเอเชียมีวัฒนธรรมที่ต่างจากฝรั่ง ไม่กล่าวฮัลโหลก็ไม่เป็นไร ขอให้ทักทายอะไรคนอื่นก่อนสักอย่าง ไหว้ก็ได้ ฮัลโหลก็ดี (ตามสมควร)
(3) ถามคนอื่นว่า “(เขาหรือเธอ) ทำอะไรอยู่เหรอ”
การถามแบบนี้ไม่ได้มุ่งหวังคำตอบ เพียงแต่ถามเพื่อทักทาย คล้าย ๆ กับที่คนไทยและชาวพม่าชอบถามว่า “สบายดีไหม” หรือคนจีนชอบถามว่า “กินข้าวแล้วยัง”
การยิ้มให้และไม่พูดอะไรเลยอาจ ทำให้อีกฝ่าย หนึ่งอึดอัดได้… การพูดแบบนี้เรียกว่า “การพูดละลายน้ำแข็ง (Break the ice. = การพูดเพื่อเปิดตัว รู้จักกัน ทักทายกัน หรือทำลายกำแพงของความเงียบและความไม่รู้จักกัน)
(4) เป็นนักฟังที่ดี
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะร้ายหรือดีเพียงไร คน น่ารัก มักจะตั้งใจรับฟัง… ถ้าไม่อยากรับฟังนานเกินก็อาจ “ขอตัว” เช่น กล่าวว่า ขอตัวไปซื้อกับข้าว ฯลฯ
คน น่ารัก ส่วนใหญ่จะไม่พูดเรื่องที่ตัวเองสนใจมาก ทว่า… จะรับฟัง หรือเชิญอีกฝ่ายให้พูดเรื่องที่ (อีกฝ่าย) สนใจ และไม่ “ขัดคอ” ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ
(5) สุภาพอ่อนน้อม
อาจารย์ท่านแนะนำให้พูดคำต่อไป นี้บ่อย ๆ ได้แก่ ‘please = ได้โปรด กรุณา’ , ‘thank you = ขอบคุณ ขอบใจ’ , ‘You are welcome. = ยินดีต้อนรับ’ , ‘sir = ท่าน (ผู้ชาย)’ , ‘madam’ หรือ ‘ma’am = แมม / ท่าน (ผู้หญิง)’ , ‘Excuse me = ขอโทษ (เช่น เวลาขอทางเดิน ฯลฯ)’ , ‘sorry = เสียใจ (ใช้แทนคำขอโทษได้)’
คน น่ารัก มักจะมีลักษณะสำคัญได้แก่ ‘Be patient, observant and considerate’ ได้แก่ “อดทน ช่างสังเกต (ความรู้สึกของคนอื่น ไม่เฉยเมยต่อความรู้สึกของคนรอบข้าง) และมีน้ำใจ”