ถ้าเป็นตันจง....คงจะต้องมี อีก 1 S แล้วครับ คือ Self.... ตราบใดที่เน้นขายแต่รถ ไม่เน้นขายอะไหล่ อยู่อย่างนี้ ส่วนประกอบที่สามารถเสียหายได้ง่ายๆ ยังต้องสั่ง แล้วกว่าจะลงเรือมาจากญี่ปุ่น บางชิ้น เกิน 2 เดือน มันใช่สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นหรือเปล่า
ก็เข้าใจว่าไม่ใช่รถตลาด แต่ที่ไม่ใช่รถตลาดบางยี่ห้อ ก็ยังดูแล
ลูกค้า ดีกว่านี้ จะขายแต่รถ เปลี่ยน Model ไปเรื่อยๆ ตามที่มาเลย์ประกอบ โดยที่ขาดความพร้อมก็ไม่น่าจะไหว ยอดขาย จะให้ได้วันละ 10++ คันเนี่ย ถ้าเกิดขึ้นจริง จะมีรถส่งให้ลูกค้าหรือเปล่า ก็ยังไม่รู้ อย่างที่ทราบๆ กัน ยังมีการดึง stock จากหลายๆ ที่ จนบางที ก็ปล่อยให้เซลล์ให้ความหวังแล้วชิ่งลาออกไป ก็ยังมีมาแล้ว
ที่ผ่านมา xv ลดแล้ว 3 แสน , forester XT ลด 5 แสน... แล้วตัวไหนจะเป็นรายต่อไป นี่เล็งๆ ถ้า XT ต่ำกว่า 2 ล้าน ค่อยหาเงินจัด...จะมีวันนั้นมั๊ยน๊า
ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ (2016) ไว้ที่ ..4,000 คันสำหรับ Forester
4000÷9 เดือนที่เหลือ = 444 คันต่อเดือน = 14.8 คันต่อวัน..
ต้องรอดูการเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ว่ามีเสียงตอบรับให้ความสนใจและที่สำคัญยอดจองในงาน ซึ่งจะบอกถึงอนาคตอันสวยหรูหรือจุดดับได้เลยเช่นเดียวกัน (ส่วนยอดขาย 4,000 คันอาจจะเป็นการขายความเพ้อฝันของผู้บริหารก็ไม่แน่ 444 คันต่อเดือน = 14.8 คันต่อวัน..
ถ้าไม่รีบรอดูราคาต้องมีการปรับตัวหรือเทกระจาดอีกแน่เหมือนช่วงที่ราคา XV ปรับตัวลงมา) สำหรับ Forester
ช่วงนี้คงต้องตอบว่าเหนื่อยพอสมควรกับรูปร่างหน้าตาที่ต้องแต่งหน้าทาปากมาใหม่เพราะไม่ค่อยจะถูกโฉลกกับคนไทยเท่าที่ควร (ว่าแต่ดีขึ้นไหม )
รถราคาระดับนี้ในปัจจุบันถือว่ามีคู่แข่งมองว่าถ้าไม่ใช่ DNA ที่รัก SU ตัวจริงคงยากจริงๆไหนจะเรื่องอะไหล่ ศูนย์บริการ มาตรฐานที่นับวันและนับวันยิ่งห่วยลงเรื่อยๆซึ่งมันอาจจะเป็นมาตรฐานใหม่ของ SUBARU ก็ได้ที่กำลังพัฒนามาตรฐานทั้ง Sale Service SparePart (3S) ให้ต่ำลง...และต่ำลง