แสดงกระทู้
1
ถามตอบปัญหา / Re: *** แนวทางลดเสียงรบกวนจากภายนอก เข้ามาในรถ Subaru XV ของเรา ***
« เมื่อ: April 07, 2015, 18:02:20 »
ถ้าอยากจะให้ได้ผลจริงๆ ผมว่าต้องทำกันเยอะครับ
ตอนคันเก่าผมนี่ค่อนข้างบ้าพลังเลย คือต้องการความเงียบมาก
ผมเริ่มตั้งแต่
1. ติดเจ้าตัว stuffit นี่หละครับ ต้องเลือกตัว option สูงสุดครับ, ผลที่ได้ คิดว่าไม่มากครับ ไม่เกิน 5% และทำให้ประตูปิดยากขึ้น
ตอนนั้นได้โปรจากงาน motor show เหลือไม่ถึง 4 พัน(ตัว option ครบ)
2. ผมทำระบบ acoustic เพื่อเครื่องเสียงรถยนต์ที่ติดตั้งมา ด้วยการ damp ทั้งคัน ย้ำว่าทั้งคันนะครับ!! และต้องใช้ของยี่ห้อดีซึ่งเค้าจะแยกประเภทแผ่น damp ไปตามโซนของรถครับ เช่นซุ้มล้อจะหนาหน่อยและใช้วัสดุแน่นๆ ช่วงพื้นรถก็จะใช้แบบบางลงหน่อยเพื่อไม่ให้น้ำหนักรถเยอะ หลังคาก็จะเป็นแบบที่เคลือบ foil เพื่อกันความร้อนไปในตัว ประตูรถ และทุกซอกทุกมุมของรถ เบ็ดเสร็จโดนไป 3 หมื่นครับ, ผลที่ได้ ช่วยได้เยอะครับ ประมาณ 40-50% ที่ความเร็วไม่เกินร้อย(โดยเฉพาะจอดรถติด มอไซร์มายังแทบไม่ได้ยินถ้าไม่ได้มาอยู่ข้างๆ) แต่ผลที่ได้ชัดเจนเลยคือ น้ำหนักรถมากขึ้นครับประมาณ 30 กว่ากิโล ซึ่งส่วนใหญ่น้ำหนักที่จะอยู่ที่ช่วงล่างๆ ข้อดีคือรุ้สึกได้ว่าเวลาขับรถที่ความเร็วสูงๆ รถโคลงน้อยลงหน่อย และบอดี้รถทั้งคันแน่นขึ้นจากการ damp คล้ายพวกรถยุโรปครับ น้ำหนักและเสียงปิดประตูนี่ให้ฟีลลิ่งรถยุโรปมาก พิสูจน์ได้จากการเอามือเคราะ ไม่ป๊องแป๊งเหมือนเมื่อก่อน
3. เสริม ยูรีเทรน(คล้ายๆซิลิโคลน) ที่โช้คทั้ง 4 ด้านของรถ, ผลที่ได้ ไม่เกิน 10% จากการที่แรงสั่นสะเทือนของโช้คจะน้อยลงครับ แต่ผลที่ได้หลักๆคือ เวลาลงหลุมถ้าไม่ใช่หลุมที่ใหญ่และลึกมาก แทบไม่รู้สึกครับ พวกเส้นที่ขีดๆเพื่อลดความเร็วบนถนนนี่ยังรู้สึกนิดหน่อย แต่ที่ชอบใจที่สุดคือเรื่องการเข้าโค้ง รู้สึกว่าเข้าโค้งได้มั่นใจมากกว่าเดิม ผมเคยเข้าโค้งยาวๆแข่งกับกระบะที่ความเร็ว 140 ก็ยังไหว(กระบะนี่แทบจะเบรกไม่ทัน) ทั้งๆที่เป็นรถขับสองล้อหน้า
4. เปลี่ยนยาง เป็นพวกยางแนวนุ่ม เงียบ, อันนี้ก็อย่างที่รู้กัน ช่วยได้เยอะมากครับ เพราะเสียงส่วนใหญ่และแรงสั่นสะเทือนที่เข้ามาในห้องโดยสารจะเกิดจากการที่ยางบดถนน เพราะงั้นเปลี่ยนไปยังไงก็คุ้มครับ
ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมติดมา ตอนทำ 3 ข้อแรก ความเงียบที่ได้พอๆเพิ่งจะพอๆกับรถ volvo, benz, bm ครับ
แต่ต้องเป็นตัวล่างๆถึงกลางนะครับ ยังสู้ตัวบนของค่ายยุโรปพวกนี้ไม่ได้
แต่พอมีข้อ 4 เข้ามา ค่อยพอสูสีและมีลุ้นครับ ส่วนราคาที่ผมโดนไปทั้งหมด 4 ข้อก็ประมาณ 6 หมื่นกว่าๆครับ คิดว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม ลองใช้ข้อมูลนี้ช่วยในการตัดสินใจกันดูครับ
ตอนคันเก่าผมนี่ค่อนข้างบ้าพลังเลย คือต้องการความเงียบมาก
ผมเริ่มตั้งแต่
1. ติดเจ้าตัว stuffit นี่หละครับ ต้องเลือกตัว option สูงสุดครับ, ผลที่ได้ คิดว่าไม่มากครับ ไม่เกิน 5% และทำให้ประตูปิดยากขึ้น
ตอนนั้นได้โปรจากงาน motor show เหลือไม่ถึง 4 พัน(ตัว option ครบ)
2. ผมทำระบบ acoustic เพื่อเครื่องเสียงรถยนต์ที่ติดตั้งมา ด้วยการ damp ทั้งคัน ย้ำว่าทั้งคันนะครับ!! และต้องใช้ของยี่ห้อดีซึ่งเค้าจะแยกประเภทแผ่น damp ไปตามโซนของรถครับ เช่นซุ้มล้อจะหนาหน่อยและใช้วัสดุแน่นๆ ช่วงพื้นรถก็จะใช้แบบบางลงหน่อยเพื่อไม่ให้น้ำหนักรถเยอะ หลังคาก็จะเป็นแบบที่เคลือบ foil เพื่อกันความร้อนไปในตัว ประตูรถ และทุกซอกทุกมุมของรถ เบ็ดเสร็จโดนไป 3 หมื่นครับ, ผลที่ได้ ช่วยได้เยอะครับ ประมาณ 40-50% ที่ความเร็วไม่เกินร้อย(โดยเฉพาะจอดรถติด มอไซร์มายังแทบไม่ได้ยินถ้าไม่ได้มาอยู่ข้างๆ) แต่ผลที่ได้ชัดเจนเลยคือ น้ำหนักรถมากขึ้นครับประมาณ 30 กว่ากิโล ซึ่งส่วนใหญ่น้ำหนักที่จะอยู่ที่ช่วงล่างๆ ข้อดีคือรุ้สึกได้ว่าเวลาขับรถที่ความเร็วสูงๆ รถโคลงน้อยลงหน่อย และบอดี้รถทั้งคันแน่นขึ้นจากการ damp คล้ายพวกรถยุโรปครับ น้ำหนักและเสียงปิดประตูนี่ให้ฟีลลิ่งรถยุโรปมาก พิสูจน์ได้จากการเอามือเคราะ ไม่ป๊องแป๊งเหมือนเมื่อก่อน
3. เสริม ยูรีเทรน(คล้ายๆซิลิโคลน) ที่โช้คทั้ง 4 ด้านของรถ, ผลที่ได้ ไม่เกิน 10% จากการที่แรงสั่นสะเทือนของโช้คจะน้อยลงครับ แต่ผลที่ได้หลักๆคือ เวลาลงหลุมถ้าไม่ใช่หลุมที่ใหญ่และลึกมาก แทบไม่รู้สึกครับ พวกเส้นที่ขีดๆเพื่อลดความเร็วบนถนนนี่ยังรู้สึกนิดหน่อย แต่ที่ชอบใจที่สุดคือเรื่องการเข้าโค้ง รู้สึกว่าเข้าโค้งได้มั่นใจมากกว่าเดิม ผมเคยเข้าโค้งยาวๆแข่งกับกระบะที่ความเร็ว 140 ก็ยังไหว(กระบะนี่แทบจะเบรกไม่ทัน) ทั้งๆที่เป็นรถขับสองล้อหน้า
4. เปลี่ยนยาง เป็นพวกยางแนวนุ่ม เงียบ, อันนี้ก็อย่างที่รู้กัน ช่วยได้เยอะมากครับ เพราะเสียงส่วนใหญ่และแรงสั่นสะเทือนที่เข้ามาในห้องโดยสารจะเกิดจากการที่ยางบดถนน เพราะงั้นเปลี่ยนไปยังไงก็คุ้มครับ
ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมติดมา ตอนทำ 3 ข้อแรก ความเงียบที่ได้พอๆเพิ่งจะพอๆกับรถ volvo, benz, bm ครับ
แต่ต้องเป็นตัวล่างๆถึงกลางนะครับ ยังสู้ตัวบนของค่ายยุโรปพวกนี้ไม่ได้แต่พอมีข้อ 4 เข้ามา ค่อยพอสูสีและมีลุ้นครับ ส่วนราคาที่ผมโดนไปทั้งหมด 4 ข้อก็ประมาณ 6 หมื่นกว่าๆครับ คิดว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม ลองใช้ข้อมูลนี้ช่วยในการตัดสินใจกันดูครับ