สายชาร์จดูดเงิน อันตรายมากแค่ไหน คุ้มครองยังไงได้บ้าง ?
lsm99 รู้เท่าทันสายชาร์จดูดเงิน ปฏิบัติงานเช่นไร อันตรายมากแค่ไหน และจะมีแนวทางคุ้มครองป้องกันถูกดูดเงินจากการใช้สายชาร์จสาธารณะได้อย่างไรบ้าง มาดูกัน
ปัจจุบันนี้น่าจะจึงควรบอกเลยว่าภัยจากมิจฉาชีพนั้นเยอะแยะจริงๆไม่ว่าจะเป็นกรุ๊ปคอลเซ็นเตอร์หรือแอปฯ ดูดเงินต่างๆมาจนกระทั่งสายชาร์จดูดเงินที่พึ่งพิงจะมีข่าวดังในขณะนี้ ว่ามีหญิงรับใช้สายชาร์จแบตเตอล้นโทรศัพท์มือถือจากที่สาธารณะแล้วถูกดูดเงินไปแทบจะแสน ซึ่งความจริงแล้วความอันตรายของการใช้สายชาร์จสาธารณะนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่นัก หลายคนบางครั้งก็อาจจะเคยได้ฟังเรื่องดังที่กล่าวผ่านมาแล้วมายาวนานยาวนานหลายปีแล้ว แม้ว่าสำหรับคนไหนกันแน่ที่ยังไม่เคยรู้มาก่อน วันนี้เราจะมาอธิบายให้ฟังกันว่าสายชาร์จสาธารณะนั้นสามารถแฮกโทรศัพท์มือถือของเราได้อย่างไร แล้วหลังจากนั้นก็จะมีแนวทางคุ้มครองปกป้องยังไงได้บ้าง
สายชาร์จดูดเงิน จัดการยังไง ?
สายชาร์จที่สามารถใช้ดูดรายได้นั้นอาจมาในรูปแบบของสาย Type-C
lsm99 , microUSB หรือสาย Lightning ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่เหยื่อที่ถูกดูดเงินถูกใจใช้โทรศัพท์มือถือ Android เนื่องจากว่าเป็นระบบแบบเปิด โดยตัวสายจะมีการฝังชิปรวมทั้งซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้สั่งควบคุมโทรศัพท์มือถือเครื่องที่ทิ่มแทงสายนั้นๆหรือดักจับข้อมูลต่างๆได้ เช่น การประทับใจความหรือรหัสผ่าน
แม้กระนั้น การจะดูดเงินด้วยสายชาร์จก็ไม่ได้เกิดเหตุที่ง่ายนัก เนื่องด้วยไม่ใช่ว่าเมื่อทิ่มแทงสายไปแล้วมิจฉาชีพจะจัดการโอนเงินออกมาจากบัญชีของเหยื่อได้ในทันทีทันใด ถึงแม้จะต้องผ่านขั้นตอนรวมทั้งระบบความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือหลายจำพวก ก็คือโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นจึงควรไม่ได้ล็อกหน้าจออยู่ รวมทั้งผู้ครอบครองเครื่องจำเป็นต้องเลือกอนุญาตให้สายชาร์จเส้นนี้เข้าถึงข้อมูลในเครื่องได้ด้วย ซึ่งจากนั้นก็ควรต้องพบกับระบบความปลอดภัยของแอปฯ แบงค์อีก ซึ่งกระทั่งมิจฉาชีพจะควบคุมโทรศัพท์มือถือได้ หากแม้แม้ไม่เคยรู้รหัส PIN ก็จะทำธุรกรรมใดๆก็ตามไม่ได้เลย นอกเสียจากว่าเหยื่อจะเซฟรหัสเก็บเอาไว้ภายในเครื่องให้สามารถเปิดมองดูได้อย่างง่ายๆ
ส่วนในกรณีการดักจับการพิมพ์รหัสผ่านแป้นคีย์บอร์ดนั้นก็จำเป็นที่จะต้องมีการแอบตั้งขึ้นแอปฯ เอาอย่างลงในเครื่องด้วย ซึ่งจะสามารถทำเป็นก็เมื่อโทรศัพท์มือถือเครื่องดังที่กล่าวผ่านมาแล้วได้เปิดอนุญาตให้ก่อตั้งแอปฯ นอก Store หลักไว้เท่านั้น และยังควรมีการอนุญาตให้แอปฯ สามารถจัดการได้ตลอดแม้ว่าจะสลับไปใช้แอปฯ อื่นอีกด้วย มันถึงจะดักจับการพิมพ์รหัสผ่านได้
วิธีการป้องกันถูกดูดเงิน
1. ไม่ใช้สายชาร์จสาธารณะ
แน่นอนว่าการคุ้มภัยที่ง่ายที่สุดก็คือ การหลีกเลี่ยงไม่ใช้สายชาร์จสาธารณะ ควรใช้ที่ชาร์จพร้อมสายของตัวเองทิ่มแทงกับปลั๊กไฟ หรือพก พาวเวอร์แบงค์ ก็จะไม่มีทางถูกสายชาร์จดูดเงินแน่นอน
2. ไม่เซฟรหัสเก็บไว้ในเครื่อง
การเซฟรหัสผ่านหรือ PIN ต่างๆเก็บไว้ในเครื่องนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรที่จะทำ เพราะถ้าเกิดมิจฉาชีพสามารถควบคุมเครื่องได้ หรืออาจจะมีคนแอบจับโทรศัพท์มือถือไปแล้วปลดล็อกเครื่องได้ ก็จะสามารถดูรหัสที่เซฟเอาไว้ภายในเครื่องได้หมด ทางที่ดีควรจำรหัสผ่านได้ด้วยตัวเอง หรือใช้แอปฯ บันทึกรหัสผ่านที่มีระบบระเบียบความปลอดภัยสูงแล้วก็เชื่อถือได้
3. คิดให้ดีก่อนกดอนุญาตสิ่งต่างๆ
ถ้าหากต้องใช้สายชาร์จสาธารณะจริงๆเมื่อแทงสายชาร์จแล้วระบบถามว่าต้องการให้สายชาร์จทำงานในโหมดไหน ให้เลือกโหมดสำหรับชาร์จเท่านั้นเอง เพื่อไม่อนุญาตให้สายสามารถทำรับ-ส่งข้อมูลใดๆก็ตามกับตัวเครื่องได้ ยิ่งไปกว่านี้ถ้ามีการตั้งขึ้นแอปฯ ต่างๆก็ต้องคิดให้ดีก่อนกดอนุญาตให้แอปฯ เข้าถึงข้อมูลข้างในเครื่องด้วย
จากทั้งหมดที่เราได้กล่าวไปจะเห็นได้ว่าการถูกสายชาร์จดูดเงินนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถเกิดได้ง่ายๆก็เลยยังไม่ถึงกับจำเป็นที่จะต้องกังวลกันมากจนเกินไป เพราะถ้าหากเรารู้วิธีการป้องกันตัวเองก็จะปลอดภัยและไม่แปลงเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ครับ