สำหรับผมศูนย์จะใช้น้ำมันเบอร์ 0W20 หรือ 10W40 , 5W30 ไม่ใช่ปัญหา ทั้ง 3 เบอร์ถ้าไม่ใช้รถแบบขับซิ่งตลอดเวลาบ้านเราใช้ได้อยู่แล้ว มันจะให้ผลต่างกันตรงที่แต่ละเบอร์เมื่อใช้ไปได้ระยะ 1,000 , 5,000 , 10,000 Km ถ้าเช็คระดับน้ำมันเครื่องมันจะหายไปมาก-น้อยไม่เท่ากัน ในทางกลับกันบ้านเราเป็นเมืองร้อนบางวัน อุณหภูมิอากาศสูงถึง 35 องศา บางจังหวัดอาจสูงถึง 40 องศา บวกกับความร้อนของเครื่องยนต์ที่เราใช้งานทีีสูงไม่น้อย เบอร์น้ำมันที่มีความหนืดสูงเช่นเบอร์ 10W40 จะหายน้อนกว่าเบอร์ 5W30 และเบอร์ 5W30ก็จะหายน้อยกว่าเบอร์ 0W20 เช่นกัน การที่เราใช้งานรถแล้วระดับน้ำมันเครื่องลดน้อยลงกว่าครั้งแรกที่เติม นั่นหมายถึงเราต้องคอยตรวจเช็คและเติมน้ำมันเครื่องเพิ่มบ่อยครั้งขึ้นเช่นกัน
สิ่งที่ผมอยากฝากบอกถึงผู้ใช้รถในฐานะผู้บริโภคอย่างพวกเราคือ ในรูปแกลลอนน้ำมันที่ผมโพสต์ ถ้าสังเกตุดูตรงด้านล่างบริเวณใต้ตัวอักษร 4L จะมีตัวเลขสีตำปรากฏอยู่ " 8868 14/0511/04 26/04/2014 " ถ้าอ่านตามโค๊ตที่ระบุไว้ข้างแกลลอน สามารถระบุได้ว่า
- 8868 อันนี้ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าเป็นหมายเลขที่ใช้เรียกสูตรในการผลิตน้ำมัน ซึ่งแต่ละเกรดแต่ละเบอร์ในยี่ห้อเดียวกันตัวเลข 4 ตัวนี้จะไม่เหมือนกัน
- 14/0511/04 น้ำมันแกลลอนนี้ถูกบรรจุเมื่อ ปี 2014 ลำดับแกลลอนบรรจุที่ 0511 ของออเดอร์หรือLotการผลิตครั้งที่ 04 ของปี
- 26/04/2014 อันนี้ตรงตัวคือ วันที่บรรจุ 26/04(เมษายน)2014
การเลือกใช้น้ำมันเครื่องไม่ควรใช้น้ำมันที่มีอายุเกิน 2 ปีนับจากวันผลิต อายุของน้ำมันเครื่องใหม่หรือเก่าย่อมมีผลต่อคุณสมบัติการหล่อลื่นและการใช้งาน ซึ่งผู้ผลิตน้ำมันยังรับประกันคุณภาพ 2ปีนับจากวันบรรจุ หลายคนอาจไม่เคยสังเกตุเรื่องนี้นะครับ
https://www.motul.com/th/th/community/100รถจะวิ่งดีผมว่าองค์ประกอบที่ไม่ควรมองข้ามอีกเรื่อง คือคุณภาพของน้ำมันเชื่อเพลิงที่เราใช้ ถ้าน้ำมันเชื่อเพลิงดีและการหล่อลื่นเครื่องยนต์ดีรถย่อมมีการจุดระเบิดและให้กำลังขับเคลื่อนได้ดีกว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพต่ำกว่า