เผยแล้ว ตำรวจ เรียกเงิน 27,000 บาทจากกรุ๊ปนักแสดงไต้หวัน จ่ายเสร็จแบ่งกันที่ที่ตรงนั้น
lsm99 ตำรวจ รับ มีการเรียกเงิน 27,000 จริง โดยชายชาวประเทศสิงคโปร์เป็นคนจ่าย เสร็จแล้วแบ่งเงินกันโน่น ฝ่าเอาผิดกฎระเบียบตั้งใจจริง
เกิดเหตุที่ค้างยังไม่รู้เรื่องถึงผลสรุปที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไรกันแน่ ด้วยเหตุว่ามีข้อมูลขัดแย้งกันตลอด ซึ่งซึ่งหมายถึงเรื่อง อันยู่ชิง นักแสดงสาวไต้หวันที่ถูกตำรวจรีดไถเงิน แม้กระนั้นก็มีคนมาถกเถียงว่านักแสดงสาวนั้นเมามาก อาจจะมีข้อมูลบางส่วนที่เชื้อเชิญงงเต็ก ก่อนจะนายชูวิทย์ หัวใจวิศิษฎ์ จะมีการโพสต์ข้อมูลว่าตำรวจให้การรับสารภาพว่ารีดไถเงิน 2.7 หมื่นจริง
วันที่ 30 เดือนมกราคม 2566 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา คนงานข่าว พูดว่า พล.ตำบลท. ธิต่อว่า แสงสว่าง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า ทางเราไม่ได้อยู่เฉย มีการเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งสอบพยานบุคคล พยานวัตถุ กล้องวงจรปิดต่างๆปัจจุบันนี้ได้เรื่องจริงว่ามีการตั้งจุดตรวจบริเวณสถานทูตจีนจริง รวมถึงมีภาพนักทัศนาจรครอบครองยาสูบไฟฟ้า ถือว่าผิดกฎหมายประเทศไทย แต่ว่าตำรวจไม่ได้ยึดหลักฐาน ให้ผู้เดินทางออกไปและวัตถุถูกสงสัย ก็เลยเข้ามาตรฐานเว้นเสียแต่พฤติกรรมหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ส่วนประเด็นการไถเงินนักท่องเที่ยว ขอการันตีว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานที่ชัดเจน อีกทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร บันทึกรับสารภาพ จำนวนเงินที่แน่นอนที่ชี้เฉพาะ แล้วก็คำยินยอมรับสารภาพของตำรวจ ซึ่งจะมีการสืบสวนว่าคนใดกันแน่เป็นผู้มอบสินบนให้พนักงาน เพื่อปล่อยตัวปล่อยใจนักเที่ยว แล้วข้าราชการคนใดกันเป็นคนรับสินบน เนื่องจากว่าข้อมูลออกมาขัดแย้ง หากมีข้อมูลแจ้งชัดแจ้งชัดให้ทราบต่อไป
ตำรวจ รับ รีด 27,000 จริง แล้วแบ่งเงินกันโน่น
เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า ตำรวจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการการ
lsm99 ประชุมกันถึงหัวข้อเรียกเงิน รู้ดีว่า การตั้งด่านในวันนั้นมีการเรียกเงิน 27,000 บาท แลกกับการไม่ฟ้องนักเที่ยวว่ามีความผิด โดยการจ่ายตอนนี้เป็นเพื่อนชายชาวประเทศสิงคโปร์จ่ายให้
หลังจากรับเงิน ตำรวจมีการแบ่งเงินกันบริเวณด่านในคืนเกิดเหตุ เพียงพอเป็นข่าวตำรวจกลุ่มนี้กลับปกปิดข้อมูล ไม่ยอมรับ มีความคิดเห็นว่าผู้เสียหายเป็นฝรั่ง ไม่มีการแจ้งความฟ้อง แม้กระนั้นทางตำรวจจะสอบสวนระเบียบปฏิบัติตำรวจชุดตั้งด่านอย่างแน่นอน โทษสูงสุดถึงขนาดไล่ออก ส่วนผู้บังคับบัญชาระดับ โรงพัก จะมีความเกี่ยวข้องหรือไม่ อยู่ระหว่างการพินิจของคณะกรรมการ